ความแตกต่างของ e-book กับหนังสือเล่ม
รู้หรือไม่ 10% คือส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์ ที่นักเขียนได้รับ
เมื่อทำสัญญากับสำนักพิมพ์ ตัวอย่าง เช่น
พิมพ์หนังสือมาตรฐาน 3,000 เล่ม
หนังสือวางขายในราคา 200 บาท
นักเขียนจะได้ 10% ประมาณ 60,000 บาท
สำนักพิมพ์ได้ 40% ประมาณ 240,000 บาท
ร้านหนังสือได้ 40% ประมาณ 240,000 บาท
ค่าขนส่ง + โปรโมท 10% ประมาณ 60,000 บาท
หนังสือแต่ละเล่มก่อนพิมพ์ต้องทำสัญญากับสำนักพิมพ์
และจะต้องติดสัญญาอยู่ประมาณ 5 ปี เช่น
ผู้รับอนุญาตตกลงจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้อนุญาต
ในอัตราร้อยละ10 ของราคาหน้าปกของสิ่งพิมพ์ที่จัดจำหน่ายได้
โดยผู้รับอนุญาตจะทำการรวบรวมยอดการจัดจำหน่าย
ภายในระยะเวลา 3 เดือนสำหรับการวางจำหน่ายครั้งแรก
(หรือตามกฏเกณฑ์ของผู้จัดจำหน่าย) และหลังจากนั้น
จะทำการรวมยอดวันสิ้นเดือนของทุกๆ เดือน และจะจ่าย
ค่าตอบแทนดังกล่าวให้กับผู้อนุญาตภายในกำหนด 30วัน
นับแต่วันที่สรุปยอดการจัดจำหน่ายในแต่ละเดือน
ทั้งหมดข้างต้นคือรายได้จากการพิมพ์หนังสือเล่ม
โดยสำนักพิมพ์เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
ถ้านักเขียนคิดว่าได้ค่าลิขสิทธิ์น้อยเกินไป
หากจะผลิตจำหน่ายเป็นสินค้าของเราเอง
โดยเริ่มในรูปแบบ e-book รายได้จะเป็นอย่างไร?
ต้นฉบับเรื่องเดียวกัน ทำเป็น e-book
ขายครึ่งราคาก็ได้ เพราะต้นทุนการผลิตต่ำมาก
นักเขียนจึงสามารถเล่นที่เรื่องของราคา
เพื่อดึงดูดความน่าสนใจ ให้ผู้อ่านตัดสินใจได้ง่าย
เข่น เนื้อหา 200 หน้า ราคา 99 บาท
ขาย 1,000 เล่ม ก็เริมเห็นเงินแสนแล้ว
ตัวแปรของการทำหนังสือทั้ง 2 แบบอยู่ที่การโปรโมท
ต้องเข้าให้ถึงกลุ่มเป้าหมายที่จะซื้อหนังสือของเรา
ยิ่งเข้าถึงมากยิ่งขายได้มาก
ในแบบแรกที่สำนักพิมพ์จัดการให้
มีคนช่วยทำการโปรโมทอย่างน้อย 3 คน
คือสำนักพิมพ์ ร้านค้า และตัวเรา
ส่วนแบบที่สองคือผลิตเอง
จะมีเพียงเราเท่านั้นที่เป็นคนดูแล และวางแผน
ถ้าเข้าใจในเรื่องการตลาด และช่องทางการหาลูกค้า
ก็ไม่ใช่ปัญหาสำคัญ เพราะปัจจุบันโซเชียล มีเดีย
มีพลัง และประสิทธิภาพมากมายอยู่แล้ว
ทุกคนเข้าถึง และใช้งานได้อย่างเต็มที่
แค่ใช้ให้ถูกหลักวิธีก็เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ไม่ยาก
ไม่ว่าใครจะเป็นคนดำเนินการผลิตก็ตาม
สิ่งที่เราต้องทำก็คือ ต้องโปรโมทงานของเราเอง
ยิ่งมีผู้ติดตามงานของเรามาก โอกาสของเราก็ยิ่งกว้าง
เพราะผู้ติดตามงานของเราคือฐานลูกค้าที่สำคัญ
วันนี้ถ้าสำนักพิมพ์ยังไม่สนใจงานของเรา ก็ไม่เป็นไร
อย่าให้ความฝัน ความต้องการของเรามืดดับลง
หมั่นเติมพลัง กำลังใจเข้าไปเรื่อย ๆ ทุกวัน
สร้างหนังสือของเราในแบบ e-book ก็ไม่ขี่เหร่
ขายได้วันละเล่ม สองเล่ม เงินก็เข้าเราเต็ม ๆ
ความต้องการมากขึ้น ก็ผลิตเป็นเล่มตามการจอง
หรือมากกว่านั้นอาจจะต่อยอดจากต้นฉบับเดิม
เพิ่มคุณค่าเป็นหนังสือพูดได้ เป็นคอร์สเรียนออนไลน์
เพิ่มมูลค่าให้งานลิขสิทธ์ของเรามากขึ้นด้วย
จากหนึ่งเล่มเพิ่มเป็นหลายเล่ม กลายเป็นธุรกิจ
ที่มีเราเป็นเจ้าของ มันคือวิธีสร้าง Passive Income
จากการเขียนหนังสือของเราเอง ไม่ยากเลยนะครับ
วิธีสร้าง Passive Income จากการเขียน e-book
จึงเริ่มได้ไม่ยาก โดยเริ่มจากงานเขียนของเราเป็นเล่มแรก
แล้วทำการโปรโมททาง Facebook Page
และช่องทางของโซเชียล มีเดียอื่น ๆ
เพื่อบอกกล่าวให้งานเขียน e-book ของเรา
ไปถึงกลุ่มผู้สนใจให้ได้มากที่สุด
อย่าพึ่งมุ่งแต่การขายสินค้า ต้องให้ข้อมูลที่ดี
ที่ผู้อ่านสนใจ หรือต้องการก่อน
เพราะนั่นคือการเพิ่มความมั่นใจ
ว่าสิ่งที่เขาได้รับคือสิ่งที่มีคุณค่า
คู่ควรแก่การควักกระเป๋าจ่ายให้กับผลงานของเรา
เมื่อมีเล่มแรก ก็จะมีเล่มที่สอง สาม สี่ ...
และเล่มต่อ ๆ ไปคลอดตามออกมาอีก
บทเริ่มต้นของการสร้างธุรกิจเริ่มขึ้นแล้ว
จากฝีมือ งานเขียนของเราเอง
#การสร้างตัวตนสร้างธุรกิจจากงานเขียน
#ครูติ๊ก_วีระชน_ไพสาทย์
WWW.BizsStartup.com
